บทเรียนที่ 3


โครงสร้างข้อมูล

     โครงสร้างข้อมูล  แบ่งออกเป็น 2  ลักษณะ คือ (ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์ และไพบูลย์ เกียรติโกมล, 2545, หน้า 110)
1 โครงสร้างเชิงกายภาพ (Physical Data Structure) หมายถึง วิธีการจัดเก็บข้อมูลในสื่อต่าง ๆ เช่น  เทปแม่เหล็ก  จานแม่เหล็ก ดิสก์เก็ต  เป็นต้น
2 โครงสร้างเชิงตรรกะ (Logical Data Structure) หมายถึง การจัดเก็บข้อมูลและความสัมพันธ์ต่าง ๆ ของข้อมูลในระบบฐานข้อมูล
สำหรับโครงสร้างเชิงตรรกะ  จะแสดงให้เข้าใจถึงการจัดระเบียบการทำงาน และการมีปฏิสัมพันธ์ภายในระบบฐานข้อมูล  ซึ่งระดับโครงสร้างของข้อมูลที่เรานำไปใช้งานนั้น   สามารถแบ่งได้  ดัง
    บิต (Bit) เป็นโครงสร้างข้อมูลที่เล็กที่สุดที่เครื่องรู้จัก อยู่ในรูปของสัญญาณไฟฟ้าประกอบด้วยเลข 0 กับ 1 ถ้าเป็นเลข 0 แสดงว่าไม่มีสัญญาณไฟฟ้า แต่ถ้าเป็นเลข 1 แสดงว่ามีสัญญาณไฟฟ้า
    ไบต์ (Byte)  คือ กลุ่มของบิตที่เป็นรหัสใช้แทนตัวอักษร 1 ตัว โดยปกติแล้ว 8 บิต คือ 1 ไบต์ หรือ 1 ตัวอักษร (Character) ดังนั้นตัวอักษร 1 ตัว อาจจะเรียกว่า 1 ไบต์ ก็ได้
    เขตข้อมูล/ฟิลด์ (Field) คือ หน่วยของข้อมูลที่เกิดจากการนำตัวอักษรหลาย ๆ ตัวมารวมกัน เป็นคำที่มีความหมาย เช่น ฟิลด์ชื่อนักศึกษา ฟิลด์ตัวเลขเงินเดือน ฟิลด์รหัสประจำตัวพนักงาน ฟิลด์คะแนนแต่ละวิชา   เป็นต้น
    ระเบียน/เรคคอร์ด (Record) คือ รายการข้อมูลแต่ละรายการประกอบไปด้วยฟิลด์ต่าง ๆ มารวมกัน เช่น รายการข้อมูลของพนักงานแต่ละคน รายการของสินค้าแต่ละชิ้น รายการของนักศึกษาแต่ละคน เป็นต้น
    แฟ้มข้อมูล/ ไฟล์ (File) คือ กลุ่มของรายการข้อมูลที่เหมือนกันมารวมกัน เช่น แฟ้มเก็บข้อมูลทะเบียนประวัตินักศึกษา   แฟ้มเก็บข้อมูลรายชื่อสินค้า   แฟ้มเก็บข้อมูลรายชื่อหนังสือในห้องสมุด   แฟ้มเก็บข้อมูลประวัติพนักงานในบริษัท  เป็นต้น
    ฐานข้อมูล (Database) คือ หน่วยของข้อมูลที่มีการนำแฟ้มข้อมูลหลาย ๆ แฟ้มข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันมารวมกัน เช่น ฐานข้อมูลในระบบทะเบียนนักศึกษา ประกอบด้วยแฟ้มข้อมูลรายวิชา แฟ้มข้อมูลนักศึกษา แฟ้มข้อมูลการลงทะเบียน และแฟ้มข้อมูลผลการเรียน เป็นต้น
ภาพแสดงตัวอย่างแฟ้มข้อมูลพนักงาน
ตัวอย่างแฟ้มข้อมูลพนักงาน ประกอบไปด้วยฟิลด์รหัส   ฟิลด์ชื่อ-นามสกุล   ฟิลด์ตำแหน่งและฟิลด์เงินเดือน  มีข้อมูลพนักงานจำนวน  5  ระเบียน

ข้อมูลจาก
http://www.thaiwbi.com/course/Intro_com/Intro_com/wbi1/hie/page44.htm



จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการประมวลผลข้อมูลแบบแบชและแบบเรียลไทม
ประมวลผลข้อมูลแบบแบช (Batch  Processing)   คือการประมวลผลข้อมูลที่ได้ทำการเก็บรวบรวมไว้เป็นชุดข้อมูล  แล้วจึงนำส่งข้อมูลเหล่านั้นไปทำการประมวลผลข้อมูลพร้อมกันทั้งหมด  ทีเดียวซึ่งระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้เพื่อรอการประมวลผล  อาจจะเป็นรายวัน  รายสัปดาห์  รายเดือน  หรือรายปี  เป็นต้น  เช่นการประมวลผลการเสียภาษีประจำปี   การคิดดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร
ประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม (Real - Time Processing)  คือ  การประมวลผลทันทีทุกครั้งที่มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ  บางทีอาจจะเรียกว่า  การประมวลผลแบบ  Transaction  Processing   เช่น  ระบบเงินฝาก  -  ถอนเงินด้วย  ATM  ของธนาคาร  ระบบสำรองที่นั่งในเครื่องบิน  ระบบการตัดยอดสินค้าคงคลังทุกครั้งที่มีการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า  เป็นต้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น